เรื่องเงินทองแม้ว่าจะเป็นเพียงของนอกกาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความสำคัญอยู่ไม่น้อย เวลาน้องเลือกมาใช้ทุน เงินเดือนก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่หลายๆคนให้ความสำคัญ เนื่องจากหมอก็เป็นประชาชนธรรมดา ย่อมต้องการเงินในการทำมาหากิน ใช้สอยต่างๆ บางคนก็มีครอบครัวต้องดูแล เงินเดือนที่แตกต่างกันนั้นย่อมมีความหมายแน่นอนเพราะต้องมาทำงานในรพช.ถึง 2 ปี เงินค่าตอบแทนที่น้องจะได้รับแบ่งเป็นประเภทต่างๆคือ
1 เงินเดือน ได้รับตามระดับซี และ ขั้นเงินเดือน ซึ่งน้องจะได้เงินเดือนเท่ากับ 8190 บาทต่อเดือน ซึ่งอาจจะถูกหักเล็กน้อยเพื่อไปเข้ากองทุนกบข. หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งน้องจะได้คืน ถ้าน้องพ้นจากการเป็นข้าราชการ
2 เงินค่าตอบแทนไม่ทำเวชปฏิบัติเอกชน หรือเรียกง่ายๆว่าเงินไม่ทำคลีนิค เป็นเงินเพิ่มพิเศษที่รัฐกำหนดให้แพทย์ที่ไม่ทำเอกชนหรือไม่เปิดคลีนิคส่วนตัว โดยจะได้รับเงินเป็นจำนวนหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือน แต่ต้องมีเวลาทำงานไม่น้อยกว่า 15 วันในแต่ละเดือน ดังนั้นในเดือนไหนที่มีวันหยุดราชการมากๆ น้องต้องระวังถ้าน้องลามากๆในเดือนดังกล่าวอีก อาจทำให้เวลาทำงานไม่ถึง 15 วันในเดือนนั้นก็ได้ น้องก็จะอดได้เงินหมื่นไปโดยปริยาย
3 เงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ หรือเรียกว่าเงินเวร เงินจำนวนนี้จะแตกต่างกันค่อนข้างมากในแต่ละโรงพยาบาล ขึ้นอยู่กับขนาดโรงพยาบาล การแบ่งเวร และนโยบาลของโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่ของโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็กๆ จะมีแพทย์อยู่เวรวันละ 1 คน ซึ่งจะอยู่ทั้งเวรนอกและเวรใน คือรับดูทั้งคนไข้ใน Ward และคนไข้ ER โดยจะอยู่เวร On call คือถ้ามี case พยาบาลจะโทรมา consult ให้หมอมาดู โดยทั่วไปจะได้เงินประมาณ 800 บาทในเวรวันธรรมดา และในวันหยุดราชการซึ่งต้องอยู่เต็มวันจะได้เงิน 800-1600 บาท แล้วแต่โรงพยาบาล บางโรงพยาบาลจะได้เงินเวรเป็น 800/1200, 800/800,800/1600, 1200/1600 แล้วแต่กรณี นอกจากนี้ในโรงพยาบาลชุมชนขนาดใหญ่ ต้องรับผิดชอบคนไข้มาก อาจจะแบ่งเวรเป็นเวรนอกและเวรใน และอาจมีค่าตอบแทนเป็น Work Load หรือค่าหัตถการก็ได้ คงต้องแล้วแต่ แต่ละโรงพยาบาลว่ามีงานมากแค่ไหน และสถานะการเงินในโรงพยาบาลเป็นอย่างไร
4 เงินเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย โดยจะได้รับเฉพาะในโรงพยาบาลชุมชนขนาด 10,30,60เตียง ที่มีแพทย์ไม่เกิน 6 คนเท่านั้น โดยจะได้เงินเพิ่มเดือนละ 2000 บาทต่อเดือน แต่ถ้าได้รับเงินเบี้ยกันดารจะไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย
5 เงินปฏิบัติงานในพื้นที่กันดาร หรือเรียกว่าเบี้ยกันดาร ในบางพื้นที่ที่โรงพยาบาลตั้งอยู่ห่างไกลการคมนาคม เป็นอำเภอเล็กๆจะมีการกำหนดเงินเพิ่มพิเศษให้บุคคลากรที่ทำงานในสถานที่กันดารดังกล่าวได้เงินเพิ่มพิเศษอีก จะมีการกำหนดโดยคณะรัฐมนตรีทุก 2 ปีในการแบ่งว่าโรงพยาบาลใดถือว่าอยู่ในพื้นที่กันดารบ้าง โดยจะแบ่งออกเป็น 2 อย่างคือกันดารระดับ 1 และกันดารระดับ 2 โดนพื้นที่กันดารระดับ 1 จะได้เงินเพิ่มพิเศษอีก 20,000 บาทต่อเดือน และกันดารระดับ 2 จะได้รับเงินเพิ่มอีก 10,000 บาทต่อเดือน น้องๆที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับเงินเพิ่มค่อนข้างมาก แต่ในบางพื้นที่พี่ว่าก็จำเป็นต้องให้เขา เพราะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรให้เลย การคมนาคมก็ลำบาก ถ้าไม่มีแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ในที่นั่น คงไม่มีใครอยากมาทำงานในที่ดังกล่าวแน่นอน ขวัญและกำลังใจของบุคคลากรเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
6 เงินค่าตอบแทนในการชันสูตรพลิกศพ เรื่องนี้เพิ่งได้รับอนุมัติและบังคับใช้เป็นกฎหมายใหม่ เมื่อน้องอยู่เวรและต้องไปชันสูตรพลิกศพจะได้ค่าตอบแทนคือ ถ้าตรวจศพภายนอกในพื้นที่โรงพยาบาล จะได้เงินตอบแทนศพละ 500 บาท ถ้าไปชันสูตรนอกสถานที่จะได้เงินตอบแทน 1000 บาท และถ้าผ่าศพพิสูจน์จะได้เงินเพิ่มมากกว่านี้อีก เรื่องราวเกี่ยวกับการชันสูตรพลิกศพและกฎหมายใหม่ เป็นประเด็นใหม่ที่น่าสนใจ ไว้พี่จะเล่าให้ฟังในตอนหลังนะ
7 เงินค่าตอบแทนอื่นๆ เงินค่าใช้จ่ายในการไปอบรม ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าลงทะเบียน เป็นต้น
น้องคงจะได้เห็นภาพกว้างๆเกี่ยวกับเงินที่น้องจะได้รับในโรงพยาบาลชุมชนแล้ว จะเห็นว่าเงินเดือนที่น้องจะได้รับ จะแตกต่างกันใปในแต่ละโรงพยาบาลขึ้นอยู่กับหลายๆอย่าง โดยทั่วไปอย่างต่ำ ถ้าไม่ทำคลีนิคน้องจะได้เงินประมาณ 28,000 บาท ซึ่งคือเงินเดือนประมาณ 8,000 บาท บวกเงินไม่ทำเวช 10,000 บาท และค่าเวรอีกประมาณ 10,000 บาท บางโรงพยาบาลอาจจะได้ถึง 30,000 ถึง 40,000 บาทก็มี เช่นโรงพยาบาลที่ได้เงินค่าเบี้ยกันดารอีก 20,000 บาทต่อเดือนเป็นต้น อย่างไรก็ตามเงินเดือนที่น้องได้รับมานับว่าเป็นเงินเดือนครั้งแรกในชีวิต และได้รับเงินเป็นจำนวนมาก น้องคงต้องวางแผนการใช้เงิน และเก็บสะสมเงินให้ดี อย่าใช้สุรุ่ยสุร่าย บางคนพอทำงานมาสักพักรู้สึกว่าทำงานในชนบทได้เงินมาก ก็จะใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวัง อยากได้อะไรก็ซื้อ ทำให้เงินเก็บมีน้อย ทางที่ดีแล้ว น้องควรตั้งเป้าเก็บเงินไว้มากๆ เพราะน้องมักจะใช้จ่ายค่อนข้างน้อยในอำเภอที่น้องอยู่ เพราะไม่ได้ไปเที่ยว ไปเดินห้าง ไม่มีที่ให้ใช้เงินอยู่แล้ว ถ้าน้องตั้งใจเก็บเงิน ช่วงเวลา 2-3 ปีจะได้เงินเป็นก้อนใหญ่พอสมควรทีเดียว
อีกอย่างหนึ่งที่น้องจะลืมไม่ได้เลย ถ้าน้องจะกลับมาเรียนที่โรงเรียนแพทย์ น้องจะได้เงินเดือนน้อยลงมาก เพราะค่าเวรอาจจะได้เพียง 3000-4000 บาทต่อเดือน ไม่ได้เงินเบี้ยกันดาร เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ไม่ได้เงินไม่ทำเวชอีกต่างหาก ได้เงินเดือนรวมจริงๆไม่ถึง 20000 บาท น้องจะรู้สึกขาดเงินเป็นอย่างมาก ถ้าน้องใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยมาก่อน น้องต้องเก็บเงินนำมาใช้ในช่วงที่น้องมาเรียนด้วย เพราะนอกจากรายได้จะน้อยลงแล้ว รายจ่ายยังมากขึ้นด้วย เพราะน้องกลับมาเรียนที่กรุงเทพหรือเมืองใหญ่ ค่าครองชีพสูงกว่า ไหนจะเรื่องเลี้ยงน้องอีกล่ะ การบริหารเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญ
อีกอย่างนะครับ อย่าลืมถึงพ่อแม่ของเราด้วย การที่เราทำงานได้เงินเดือนมาแล้ว เราไม่ควรจะลืมนำเงินเดือนส่วนหนึ่งไปให้ท่านด้วย แม้ว่าท่านจะไม่ได้ขาดแคลนเงินหรือต้องการเงินจากเราก็ตาม แต่การที่เรานำเงินไปให้ท่านบ้าง นับว่าเป็นการแสดงความกตัญญูและตอบแทนคุณท่าน ท่านเคยให้เงินเลี้ยงเรามานานตั้ง 20 กว่าปี เราน่าจะเริ่มหาเงินเลี้ยงดูท่านบ้าง ไม่ใช่ใช้จ่ายส่วนตัวอย่างเดียว
*** บทความนี้ได้ถูกเขียนขึ้นเมื่อปีพศ. 2543 ซึ่งปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปมากเรื่องโครงสร้างค่าตอบแทนของแพทย์ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันที่สุด
สู้สู้ครับคุณหมอเป็นกำลังใจให้ครับ
ไม่ต้องไปน้อยใจหรอกครับรักษาคนใข้ดีๆแล้วจะใด้บุญมีความสุขเองครับดูอย่างผมเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราวที่รพ.ชนบทแห่งหนึ่งเงินเดือนแต่ละเดื่อนผมก็ใด้ 8982 แต่ก็ถือว่าเยาะสำหรับผมละแต่ยังไม่วายใด้ยินว่าจะลดเงินเบี้ยกันดารไรชักอย่างนี้อีกละ
ดีจัง
อยากเป็นหมอบ้างจัง
เป็นอาชีพที่งานเยอะมากๆ แต่ก็มีความสุขนะคะ
แม้เงินเดือนจะไม่มาก
Update ข้อมูลค่ะ
ณ . ตอนนี้ พศ. 2555 พี่เป็นหมอฟัน รพ.ชุมชน ได้เดือนละ 80000 ค่า
ไม่มีคลีนิกเอกชน ทำโรงบาลอย่างเดียว
ทำงานมาแล้ว 10 ปี ณ.ตอนนี้
เงินเดือน 24500 บาท
ค่าไม่ประกอบเวช 10000 บาท
ค่า ซี 7 3500 บาท
ค่าปฎิบัติงานนอกเวลาราชการ 4500 บาท (อยู่ราว 6 เวร ช่วง 16.00-19.00 น.)
ค่าตอบแทน ทันตแพทย์ รพ.ชุมชน ทำงานมากกว่า 10 ปี เดือนละ 40000 บาท (เพื่งได้เงินนี้เมื่อ พศ. 2552 เป็นต้นมา )
โดยจะได้มากน้อยแล้วแต่ระยะเวลาที่ทำงาน >6-9 ปี จะได้ 30000 บาท >3-6 ปี ได้ 20000 บาท 1-2 ปี 10000 บาท
โรงบาลศูนย์ โรงบาลทั่วไป หรือโรงบาลสังกัดกระทรวงอื่น (รพ.เทศบาล , รพ.ค่าย , สสจ.จะไม่ได้เงินนี้ค่ะ)
รวม 80000 บาท นิดนิด
แต่ต้องจ่ายภาษี ประมาณ 80000 บ.ค่ะ ทั้ง ๆที่ซื้อกองทุนรวม ทำประกันชีวิต และอื่น ๆ อีกมากมาย
แต่ก็ยินดีค่ะ
ขอบคุณมากครับที่ช่วย update ข้อมูลให้