ผมจำไม่ได้แล้วว่าเคยอ่านหรือเคยได้ยินมาจากที่ไหน แต่เรื่องแพทย์ที่เก่งที่สุด 3 คนนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมชอบมากเรื่องหนึ่ง และพูดให้หลายๆคนฟัง
คุณๆทราบกันไหมครับว่าแพทย์ที่เก่งที่สุดในโลก 3 คนมีใครบ้าง ….. เฉลยเลยนะครับ แพทย์ทั้ง 3 คนมีชื่อว่า ธรรมชาติ เวลา และ ความอดทนครับ จำได้ดีเลยครับว่าตอนได้ยินคำเฉลยนี้ อึ้งไปพักหนึ่งเลยครับ แล้วก็อมยิ้มพร้อมชื่นชมกับคนที่เป็นต้นคิด ซึ่งสามารถสรรหาคำตอบได้อย่างวิเศษ
ผมเชื่อว่าแพทย์ทั้ง 3 คนนี้สามารถรักษาได้ทุกโรค และไม่เท่านั้น แพทย์ทั้ง 3 คนนี้ยังจำเป็นกับคนไข้ทุกคนด้วย
แพทย์ท่านแรกเลยครับ ธรรมชาติ เชื่อไหมครับว่า ธรรมชาติเป็นผู้รักษาที่วิเศษที่สุด โรคส่วนใหญ่ของเราสามารถหายเองได้ เพราะร่างกายเรามีระบบต่างๆมากมายในการดูแลรักษาและป้องกันตัวเอง เช่น เวลาเรามีแผลเล็กๆน้อยๆแผลเราก็หายเองได้ ถ้าใหญ่หน่อย แพทย์ก็อาจจะต้องช่วยเย็บ เพื่อช่วยให้แผลอยู่ใกล้กัน หลังจากนั้นก็ต้องใชัธรรมชาติอีกนั่นแหละในการรักษา แพทย์มีหน้าที่เพียงช่วยให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่พร้อมจะสมานตัวเอง หรือพวกกระดูกหัก เห็นไหมครับ เราแค่เข้าเฝือกเพื่อรอให้ธรรมชาติซ่อมแซมตัวเอง และระวังไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนใดๆ ไม่มียาใดๆหรือวิธีใดๆหรอกครับที่ทำให้กระดูกติด มีแต่ธรรมชาติเท่านั้น การกระทำหรือการรักษาของแพทย์จริงๆแล้วก็เป็นไปเพื่อช่วยธรรมชาติเท่านั้น การติดเชื้อโรคต่างๆก็เช่นกัน ส่วนใหญ่ร่างกายเราก็จะต่อสู้ได้เอง และหายเองได้ แต่ถ้าร่างกายสู้ไม่ไหว หมอก็จะมีวิธีให้ยาฆ่าเชื้อต่างๆเข้าไปช่วย และรอให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายต่อสู้่กับเชื้อโรค ทำให้เราหายจากโรคได้
แพทย์อีกท่านหนึ่งที่สำคัญคือ เวลา ทุกอย่างต้องการเวลาครับ โรคทุกอย่างจะหายได้ก็ต้องการเวลาเช่นกัน โรคบางอย่างใช้เวลาเป็นวันในการรักษา บางอย่างเวลาเป็นเดือนหรือบางโรคใช้เวลาเป็นปีหรือหลายๆปี ถ้าพวกเรายอมรับได้ว่าทุกอย่างต้องการเวลา ประกอบกับเรามีความอดทนซึ่งเป็นแพทย์ท่านที่ 3 การรักษาทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น โดยเฉพาะสภาพจิตใจของคนไข้ก็จะดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงการรักษาทำให้ดีขึ้นเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น เวลาเกิดอุบัติเหตุแขนหัก คนไข้มาโรงพยาบาล แพทย์ให้ยาแก้ปวดและเข้าเฝือกให้ หมอเองก็จะแนะนำคนไข้ในการปฏิบัติตัว ถ้าคนไข้ยอมรับได้ว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา และความอดทน เพื่อรอให้ธรรมชาติสมานตัวเอง ทุกอย่างก็จะราบรื่น แต่ในคนไข้บางรายอาจจะยอมรับไม่ได้ในช่วงแรก เช่น บ่นกับหมอว่าทำไมไม่หายซักที ยังเจ็บอยู่เลย บางครั้งก็ตามพยาบาลหรือหมอเวรอยู่ตลอดเวลาว่าทำไม่ไม่หาย หมอเองก็ต้องใจเย็นๆและค่อยๆอธิบายให้คนไข้เข้าใจและยอมรับ ว่ากระดูกหักก็ต้องใช้เวลาเป็นเดือนในการรักษา การที่คนไข้ไม่ยอมรับหรือ ถามอยู่ทุกวันมันก็ไม่ได้ช่วยให้กระดูกติดเร็วขึ้น รังแต่จะสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจขึ้นมากกว่า อาจต้องพูดทีเล่นทีจริงว่า ตอนนี้หมอทำดีที่สุดแล้ว คือเข้าเฝือกและรักษาตามหลักวิชาการ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องรอหมอใหญ่มาช่วยด้วยคือ ธรรมชาติ
แต่ผมเข้าใจเลยครับว่า การพูดว่าให้รอธรรมชาติ เวลาและให้มีความอดทนนั้นมันพูดง่าย แต่ถ้าเราเป็นคนเจ็บป่วยขึ้นมาเอง เราก็จะไม่สบายใจ และกังวลใจ ในบางครั้งยิ่งเรารู้ดีหรือเป็นหมอแล้วเจ็บป่วยเอง เราจะยิ่งกลุ้มใจหรือกังวลใจมากถึงโรคหรืออาการที่เราเป็นอยู่ ในภาวะเช่นนั้นการเตือนตนเองมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เตือนคนอื่นเสมอไป ผมเองก็เป็นอยู่บ่อยๆครับ คงต้องฝึกตนฝึกใจอีกมาก