บารมี 10 กับชีวิตประจำวัน

ช่วงเดือนก่อนผมได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อจันทร์ศรี ที่วัดโพธิ์สมภรณ์ จังหวัด อุดรธานี จริงๆนับว่าผมโชคดีมาก เนื่องจากไม่ได้คิดว่าจะได้พบกับพระอาจารย์จันทร์ศรี แต่พอดีเป็นช่วงที่วัดมีงาน และมีคนเข้าวัดเต็มศาลาเลย ผมได้มีโอกาสแค่กราบอยู่ข้างนอก ก็รู้สึกอิ่มบุญ ปลาบปลื้มมาก ดูท่านอาจารย์ช่างชดงาม และผ่องใสยิ่ง

หลังจากนั้นผมได้มีโอกาสเดินขึ้นนมัสการพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐฐิของครูบาอาจารย์หลายท่าน สิ่งที่ผมประทับใจมากอย่างหนึ่งในวันนั้นคือการที่ได้อ่านเรื่องบารมี 10 ทัศ ซึ่งจารึกไว้ที่ตัวองค์เจดีย์ ซึ่งได้มีการแจกแจงไว้ดังนี้

ทานบารมี

หม้อน้ำเต็มเปี่ยม ใครผู้ใดคว่ำปากลง น้ำย่อมไหลออกหมด ไม่ขังอยู่ฉันใด ท่านก็ฉันนั้นเหมือนกัน เห็นยาจก ไม่ว่าต่ำทราม ปานกลางและสูงส่ง จงให้ทานให้หมด เหมือนหม้อน้ำคว่ำ

ศีลบารมี
จารมี หางคล้องติดในที่ใดก็ตาม ปลดขนหางออกไม่ได้ ก็ยอมตายในที่นั้น แม้ฉันใด ท่านจงรักษาศีลไว้ทุกเมื่อ เหมือนจารมีรักษาขน

เนกขัมมบารมี
อยู่มานานในเรือนจำ ลำบากเพราะความทุกข์ แสวงหาความพ้นออกไปอย่างนั้น แม้ฉันใด ท่านจงเห็นภพทั้งปวงเหมือนเรือนจำ เป็นผู้มุ่งหน้าออกบวช เพื่อพ้นออกไปฉันนั้น

ปัญญาบารมี
ภิกษุเมื่อเที่ยวบิณฑบาต ไม่เว้นตระกูลต่ำ สูง และปานกลาง ย่อมได้อาหารเป็นเครื่องยังชีพ ด้วยอาการอย่างนี้ แม้ฉันนั้น ท่านอย่าได้เว้นใครๆเลย พึงเข้าไปหาบัณฑิตแม้ทั้งหมดไต่ตามปัญหา

วิริยบารมี
พญาราชสีห์ เป็นผ็มีความเพียรไม่ย่อหน่อยในอิริยาบถทั้งปวง ประคองใจไว้ในกาลทุกเมื่อ แม้ฉันใด ท่านจงประคองความเพียรไว้มั่น ตลอดทุกภพ

ขันติบารมี
ธรรมดาแผ่นดินย่อมอดกลั้นสิ่งทั้งปวง ที่คนทั้งหลายเขาทิ้งลง สะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง . . . → Read More: บารมี 10 กับชีวิตประจำวัน

ที่มาของ “บันทึกบางสิ่งบางอย่างในชีวิต”

ใครเคยเขียนบันทึกเรื่องราวบางสิ่งบางอย่างในชีวิตตัวเองบ้างเอ่ย ผมเชื่อว่าแทบทุกคนอย่างน้อยคงจะเคยเขียนบันทึกบ้าง อาจอยู่ในรูปไดอารี่ หรือบันทึกส่วนตัวอะไรก็ตามแต่ ผมเองก็เคยเขียนไดอารี่เหมือนกันตอนเด็กๆ เท่าที่จำได้เคยเขียนตอนอยู่ประถมและมัธยมต้น พอโตกว่านั้นก็ไม่ได้มีการเขียนเป็นเรื่องเป็นราว จะมีการบันทึกเรื่องราวบ้างก็เป็นเฉพาะในช่วงสำคัญๆ หรือมีประเด็นบางอย่างในชีวิตเท่านั้น เช่น ตอนที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญๆ หรือตอนที่มีความทุกข์อย่างมาก

ในช่วงเวลาดังกล่าว หลายคนจะระบายเรื่องราวที่คับข้องใจให้คนอื่นฟัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีครับ ถ้าเรามีคนรู้ใจ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อนฝูง ญาติ ซึ่งเขาเหล่านั้นจะเป็นกัลยาณมิตรช่วยเราได้ บางครั้งเขาแค่รับฟังเราพูดก็ช่วยเราได้มากที่เดียว หรือดีไปกว่านั้นเขาอาจจะเป็นที่ปรึกษาให้ข้อคิดหรือแนะนำสิ่งดีๆแก่เราได้

แต่สำหรับผมเวลามีปัญหาหนักอกหนักใจมากๆ ถ้าได้นั่งลงและเขียนเรื่องราวอะไรก็ได้ที่อยากเขียนออกมา อาจเป็นในรูปการคุยกับตัวเอง หรือเขียนประเด็นต่างๆที่คาอยู่ในใจทั้งหมดออก จะทำให้รู้สึกโล่ง บางครั้งอาจทำให้มองเห็นทางออกเลยทีเดียว และบันทึกที่เขียนเหล่านั้นเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราได้ย้อนกลับมาอ่านใหม่ จะรู้สึกดีมาก จะเห็นตัวเราในอดีตเลยครับ บางครั้งมองออกเลยขณะนั้นเรากำลังอยู่ในอารณ์แบบใด มีความรัก โลภ โกรธหรือหลงอยู่มากน้อยแค่ไหน หรือมัวแค่คลุกอยู่กับปัญหาซึ่งกำลังฝุ่นตลบอยู่ การอ่านย้อนหลังจะเป็นเครื่องเตือนใจหรือสอนใจเราได้ดีมาก

นอกจากเรื่องราวสำคัญๆในบางช่วงของชีวิตแล้วแล้ว อีกสิ่งที่ผมอยากจะบันทึกแต่ก็ไม่เคยได้บันทึกคือ เรื่องราวหรือประเด็นที่น่าสนใจบางอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งอาจเป็นความคิดที่แวบขึ้นมาเอง หรือเป็นข้อคิดที่ได้จากการอ่านหนังสือ หรือการได้พบกับสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ดีบ้าง สิ่งที่ไม่ดีบ้าง แต่เราก็ได้เรียนรู้อะไรต่างๆจากมันพอสมควร แม้ว่าเรื่องราวทุกอย่างจะผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป คงอยู่ได้ไม่นาน แต่การบันทึกจะช่วยทำให้เราเก็บภาพ เก็บความทรงจำ ความรู้สึก หรือความคิดในช่วงเวลานั้นๆได้  ซึ่งจะมีประโยชน์มากในอนาคตเมื่อเรากลับมาอ่านใหม่หรือระลึกถึงมัน

ผมเองเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก เรื่องราวชีวประวัติของบุคคลต่างๆก็อ่าน ไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลสำคัญก็อ่านครับ เคยอ่านผ่านตาที่ไหนจำไม่ได้แล้วว่า การอ่านเรื่องราวต่างๆโดยเฉพาะข้อผิดพลาดของคนอื่นจะช่วยเราได้มาก เพราเราไม่มีเวลาจะพลาดเองได้ทุกเรื่อง อีกประโยชน์ที่ผมชอบมากคือ Experience is . . . → Read More: ที่มาของ “บันทึกบางสิ่งบางอย่างในชีวิต”